BIY

          Coffee Press หรือหลายคนน่าจะคุ้นกับชื่อ French Press มีชื่อเรียกแบบไทยๆ ว่าเครื่องชงแบบกด เป็นอีกอุปกรณ์ที่เหมาะกับมือใหม่หัดชงกาแฟที่บ้านมากๆ ด้วยขั้นตอนการทำที่เรียบง่าย แค่ใส่กาแฟ เติมน้ำร้อน รอและกด เพียงเท่านี้คุณก็จะได้กาแฟหอมกรุ่นมาต้อนรับวันใหม่แล้ว

          เราขอบอกชาวมือใหม่หัดชงก่อนว่า การชงแบบ Coffee Press เราจะใช้กาแฟบดหยาบสัมผัสคล้ายเกลือ และใช้สัดส่วนของกาแฟต่อน้ำร้อน (Ratio) 1:15 ง่ายๆ คือใช้เมล็ดกาแฟ 20 กรัม ต่อน้ำ 300 กรัมนั่นเอง แต่ขนาดบดและสัดส่วนเหล่านี้ไม่ใช่กฎตายตัว การค้นพบรสชาติใหม่ๆ สำหรับว่าที่กาแฟแก้วโปรด คุณอาจลองใช้สัดส่วนของน้ำที่มากน้อยแตกต่างออกไปได้

          การชงแบบ Coffee Press เป็นวิธีที่ดึงรสชาติและกลิ่นของออกมาได้ดี แต่ด้วยลักษณะของตัวกรองที่เป็นตะแกรง จึงไม่แปลกหากมีเศษผงและน้ำมันจากกาแฟบางส่วนลอดออกมาพร้อมกาแฟด้วย บางคนอาจจะเรียกว่าเป็นกาแฟที่มีน้ำหนักหรือมี Body ที่หนัก แต่รับรองเลยว่ากาแฟจาก Coffee Press จะเป็นความสดชื่นยามเช้าอันรีบเร่งของคุณได้แน่นอน 

   

trick not treat :->

          รสชาติของกาแฟที่ได้จาก Coffee Press ด้านบนและด้านล่างจะไม่เหมือนกัน
เพราะด้านล่างมีตะกอนกาแฟมากกว่า หากวันนี้คุณไม่ได้กินเหงาๆ อยู่คนเดียว
เพื่อให้รสชาติทุกแก้วเท่ากัน แนะนำให้เทใส่เหยือกอีกใบ คนก่อนแล้วค่อยเทแบ่งกันนะ

___________________________________________________________________

 POUR OVER

          Pour Over หรือ Coffee Drip เป็นการชงกาแฟด้วยมือที่สามารถดึงคาแรคเตอร์รสชาติของกาแฟได้ดีที่สุด แต่หลายคนอาจจะรู้สึกว่าเป็นวิธีที่ยุ่งยากเพราะดูเหมือนว่าต้องใช้อุปกรณ์เยอะ ไหนจะต้องมีที่ดริป กระดาษกรอง แก้ว กาน้ำร้อน หรือว่าเครื่องชั่งที่ดูจริงจังอีก จริงๆ แล้วการดริปเป็นวิธีที่สนุกและทำได้ไม่ยาก เชื่อเถอะว่าเราทำได้คุณก็ต้องทำได้

What you need :->

1. เครื่องชั่ง (มีตัวจับเวลา) 
2. กาน้ำร้อน
3. กระดาษกรอง
4. Fellow Stagg Dripper XF
5. Stagg Double Wall Glass Carafe
6. เมล็ดกาแฟ
7. เครื่องบด

Let’s follow the steps :->

1. เตรียมเมล็ดกาแฟ 20 กรัม

2. บดเมล็ดกาแฟ ความละเอียดแบบน้ำตาลทรายป่น

3. ใส่กระดาษกรองลงใน Dripper และล้างกระดาษด้วยน้ำร้อน

4. ใส่กาแฟบดลงไปที่กระดาษกรอง

5. เทน้ำร้อนครั้งแรกให้กาแฟบดชุ่มน้ำ ทิ้งไว้ 30 วินาที
เพื่อให้กาแฟคายก๊าซออกมาก่อน

6. เทน้ำร้อนครั้งที่สองตรงกลาง
ค่อยๆ เทไปเรื่อยๆ จนเครื่องชั่งบอกตัวเลข 300 กรัม

7. เทกาแฟใส่แก้ว ความเพลิดเพลินที่พร้อมเสิร์ฟ

.

.

LOVE ME LOVE MY COFFEE

.

.

         นอกจากการชงแบบ Pour Over จะดึงรสชาติและกลิ่นหอมฉุยของกาแฟออกมาได้ดีจนทำให้ใครหลายคนติดอกติดใจ กาแฟที่ได้จะมีความใสมากกว่าการชงแบบ Coffee Press เพราะตัวกระดาษกรองได้ช่วยซับน้ำมันและเศษผงออกจากกาแฟนั่นเอง

 

trick not treat :->

          ความสนุกของการกินกาแฟที่ชงด้วย Pour Over คือการเจอ ‘รสชาติระหว่างทาง’
ลองสังเกตดูสิว่า รสชาติตอนที่เราจิบกาแฟแก้วนั้นครั้งแรกเป็นรสแบบไหน
เมื่อเวลาผ่านไป ความร้อนของกาแฟจะค่อยๆ ลดลง เมื่อคุณลองชิมอีกครั้ง
คุณอาจค้นพบรสชาติที่อร่อยและมีมิติมากขึ้น