มุก issariiya ครีเอเตอร์สาวที่อยากชวนทุกคนมองการทำกาแฟที่บ้านให้เป็นเรื่องง่ายและสนุก!


คำว่า ‘กาแฟ’ สำหรับคุณมีความหมายเป็นแบบไหน ?


สำหรับครีเอเตอร์ที่มีรอยยิ้มและน้ำเสียงสดใสเป็นลายเซ็นอย่าง @issariiya หรือ มุก-อิสริญา เวชพงษ์ นอกจากกาแฟจะเป็นเครื่องดื่มชุบชูใจให้กราฟิกดีไซเนอร์มืออาชีพอย่างเธอมีแรงสู้กับงานในทุกวันแล้ว โลกที่ซับซ้อนของกาแฟที่เริ่มจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ ยังเป็นโลกที่เธอหลงใหล และใจเต้นทุกครั้งเมื่อได้ยินเรื่องราวใหม่ๆ ที่เพื่อนร่วมทางแวะเวียนมาแชร์ให้เธอฟัง

เพราะการใช้เวลากับกาแฟเป็นโมเมนต์ที่เต็มไปด้วยความสุขและความสนุก บวกกับแรงบันดาลใจและมิตรภาพน่ารักๆ ที่ได้รับจากโลกกาแฟ ทั้งหมดนี้คือพลังงานดีๆ ที่เธอคนนี้ไม่ได้อยากเก็บไว้แค่กับตัวเอง แต่อยากส่งต่อให้กับคนอื่นๆ ที่ผ่านมาเห็นเธอผ่านแฟลตฟอร์มออนไลน์ รวมไปถึงพื้นที่ออฟไลน์อย่างโฮมคาเฟ่ addict.co ที่เธอจับมือเปิดกับแฟนหนุ่มเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้

มาทำความรู้จักกับหญิงสาวผู้ตกหลุมรักกาแฟคนนี้ให้มากขึ้น และโอบรับพลังงานดีๆ จากเธอผ่านบทสนทนานี้กัน 

 

อะไรคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณเริ่มตกหลุมรักกาแฟ

จริงๆ ก่อนหน้านี้เราก็กินกาแฟแบบคนวัยทำงานทั่วไป เมนูที่กินก็เป็นลาเต้หรือกาแฟผสมน้ำผลไม้ เรากินอเมริกาโนไม่ได้เลยเพราะรู้สึกว่ามันขม แล้วพอมารู้จักกับไมเคิล (หันไปยิ้มให้แฟนหนุ่มที่ยืนชงกาแฟอยู่ใกล้ๆ) เราค่อยๆ โดนเขาป้ายยา

 

เหมือนเวลาเรานั่งทำงานอยู่ เขาก็ชอบเอากาแฟดำมาเสิร์ฟ ก็ลองชิม พอเป็นกาแฟยุคนี้ เรารู้สึกว่ามันกินง่าย ไม่ได้ขม มีความเปรี้ยว ความหวาน ความหอม ก็เริ่มเห็นความน่าสนใจของกาแฟ จากนั้นเขาก็เอากาแฟหลายๆ ตัวมาให้เราลอง เขานี่แหละ ที่เชียร์ให้เราลองทำกาแฟเอง

 

แก้วแรกที่ทำจำได้มั้ยว่าเป็นยังไง

ขอเล่าสองพาร์ตนะ พาร์ตแรกคือช่วงที่เริ่มจับอุปกรณ์ บอกเลยว่ากินไม่ได้เลยตามสภาพของคนที่เพิ่งเริ่ม (หัวเราะ) แต่พอมาพาร์ตที่เราต้องทำกินเองจริงๆ แล้ว เพราะเรากับแฟนมีเวลางานไม่ตรงกัน คือต้องพึ่งตัวเองว่ายังงี้ก็ได้ แฟนก็เขียนไกด์มาให้ ทำตามปุ๊บ เฮ้ย มันกินได้ หลังจากนั้นมันก็เพิ่มความมั่นใจ ทำไปเรื่อยๆ ทำทุกวัน วันไหนที่จังหวะเราตรงกันก็ทำไปให้เขาชิม เขาก็ฟีดแบ็ก ก็ช่วยกันปรับมา 

 

กาแฟเป็นไลฟ์สไตล์ที่เชื่อมเราสองคน (ยิ้ม) คือถ้าคนเราโฟกัสไม่เหมือนกันมันก็เชื่อมลำบากนิดหนึ่ง เวลาเรามีปัญหาเรื่องกาแฟ หรือขัดแย้งกันเรื่องความรู้ เราจะแชร์กันตลอด จากวันที่เขาบิ้วให้เราชงเองมาจนถึงวันนี้ก็ประมาณปีหนึ่งแล้ว

 

ในการทำกาแฟกินเอง คุณสนุกกับขั้นตอนไหนมากที่สุด

เราสนุกตั้งแต่เปิดซอง เราชอบดูเมล็ดกาแฟ โห ถุงนี้เมล็ดสวยขอชื่นชมหน่อย จริงๆ แล้วเราว่าทุกๆ ขั้นตอนมันมีเสน่ห์ของมันนะ อย่างตอนบด กลิ่นมันก็หอมมากๆ อย่างตอนที่เศร้าๆ แล้วเราดึงโฟกัสมาที่กลิ่น ได้กลิ่นกาแฟเราก็แฮปปี้แล้ว ขั้นตอนการทำก็มีอะไรที่สนุกเยอะ ยิ่งผลลัพธ์ออกมาดีก็ยิ่งแฮปปี้

 

อะไรจุดประกายให้คุณอยากลองแบ่งปันไลฟ์สไตล์นี้กับคนอื่นๆ ผ่านช่องทางอย่างอินสตาแกรม

จริงๆ ช่วงที่เริ่มทำเองเราก็มีถ่ายๆ ลงสตอรี่ ไม่ได้อะไรมากเลย 24 ชั่วโมงมันก็หายไปแล้ว แต่มีวันหนึ่งที่เราเวิร์กฟอร์มโฮม เครียดงานมาก ก็เลยพักเบรก เปิดเพลง ตั้งกล้องตอนดริปกาแฟ ถ่ายเสร็จก็รู้สึกว่าคลิปมันยาวเลยลองตัดลงเป็น Reels แล้วคลิปตัวนั้นก็ดันไปจับกลุ่มคนที่เขากินกาแฟเข้ามา พอทำเรื่อยๆ มีคนดูเรื่อยๆ ก็สนุก เรามีเพื่อนเพิ่มขึ้น แล้วหลังจากนั้นก็ได้เห็นว่ามีหลายคนมากเลยที่ติดตามกาแฟตัวที่เรากินจริงๆ เพราะการที่เราตั้งใจอธิบายเกี่ยวกับกาแฟตัวนั้นๆ มันช่วยให้เขากล้าตัดสินใจซื้อมากขึ้น 

จริงๆ เราอยากให้คนติดตามเราได้รู้ว่าการทำกาแฟดริปมันไม่ได้ยากขนาดนั้น แล้วก็อยากทำให้มันสนุก เพราะเราเคยผ่านจุดที่เครียด เคยเป็นผู้เริ่มต้นใหม่มาเหมือนกัน และความสบายๆ ของเราก็มีข้อดีอย่างหนึ่งคือ คนที่เขาไม่รู้จะไปถามใคร เขากล้าทักมาคุยกับเรา ถามเรื่องอุปกรณ์บ้าง ปรึกษาเรื่องกาแฟบ้าง การที่เราให้คำตอบไปแล้วมันช่วยให้เขาดีขึ้นจริงๆ มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ เราดีใจที่เขากล้าถามเรา

 

พูดได้มั้ยว่าความตั้งใจของคุณคือการทำให้คนรู้สึกว่ากาแฟเป็นสิ่งที่เข้าถึงง่าย

ใช่ เราอยากให้คนรู้สึกว่ากาแฟมันทำง่ายนะ ดูผู้หญิงคนนี้ทำสิ ชิลล์มากเลย

ตอนนี้คุณกำลังอินกับอะไรบ้างในโลกของกาแฟ

ตอนนี้เราอินเรื่องดริป ถ้าลงดีเทลลึกๆ เรารู้สึกว่าการดริปแต่ละครั้ง แค่จุดเปลี่ยนนิดเดียวมันมีผลกับรสชาติเลย เราก็อยากฝึกตรงนี้ เรื่องเกี่ยวกับกาแฟ เราก็มีหลายศาสตร์ที่อยากรู้ อย่างลาเต้อาร์ตก็ฝึก ออกมาเบี้ยวๆ บ้าง (หัวเราะ) หรือกระทั่งการคั่ว ก็มีไปคั่วเล่นๆ มาบ้าง

 

ก่อนมาเจอกัน คุณบอกว่าช่วงนี้กำลังฝึกดริปกาแฟไปแข่งในรายการเล็กๆ เล่าถึงความตั้งใจนี้ให้ฟังหน่อยได้มั้ย

บอกก่อนว่าเราแข่งเอาสนุกอย่างเดียวเลย เป็นงานแข่งดริปที่ร้านภพรักกาแฟ เปิดให้คนทั่วไปมาแข่ง 36 ท่าน มีสปอนเซอร์ มีร้านต่างๆ มาช่วยกันจัดเพื่อสร้างคอมมูฯ นี้ให้แข็งแรงขึ้น สำหรับเรามันเป็นการชาเลนจ์ตัวเองอย่างหนึ่ง เพราะเราไม่ชอบการแข่งขัน หรือปกติเราทำคอนเทนต์ เราก็อยู่แต่กับตัวเอง การแข่งขันมันเหมือนพาเราไปเจอคนอื่นๆ ด้วย พี่ๆ ในแก๊งเขาก็น่ารักกับเรามากๆ 

 

อินกับดริปขนาดนี้ มีอุปกรณ์ตัวไหนเป็นตัวที่รู้สึกว่าชอบหรือผูกพันเป็นพิเศษมั้ย

ถ้าเอาแบบชอบฟังก์ชั่นเลย ตอนนี้เรากำลังฝึกดริปเพื่อไปแข่ง พอมี Fellow Stagg EKG PRO ตัวนี้เข้ามา เราใช้ตอนฝึกแล้วชอบมากๆ คือการดริปเนี่ย สายน้ำมันมีผลต่อรสชาติกาแฟจริงๆ นะ ซึ่งกาดริปกาแฟตัวนี้มันค่อนข้างเข้ากับมือเรา คอลโทรลค่อนข้างง่าย และคงเอาไปใช้ตอนแข่งจริงเลย 

แต่ตัวที่มีอิมแพ็กกับเรามากๆ คือกาสีเขียว (Fellow Stagg EKG สี Smoked Green) พูดแล้วอยากจะร้องไห้ คือเราก็ทำคอนเทนต์กาแฟของเราไปนี่แหละ แล้ววันหนึ่งพี่ไช้ (อังศุธร หอมเทียนทอง หุ้นส่วนคนสำคัญของ Yellow Stuff) ก็ทักแชทมาว่าอยากส่งกาตัวนี้ให้ เราก็ถามเขาไปว่าจริงเหรอพี่ มันมีมูลค่านะ เพราะเทียบกับของที่เราเคยได้ กาตัวนี้ถือเป็นของที่แพงสำหรับเรา แล้วเขาก็บอกว่ากาตัวนี้ไม่ต้องทำคอนเทนต์ให้แบรนด์ เขาแค่อยากให้ เราก็ถามกลับไปว่าเพราะอะไร เขาบอกมาว่า “มันเป็นรางวัลของคนขยัน ทำต่อไปนะ” เราร้องไห้เลย 

คือเราไม่รู้หรอกว่าคนข้างนอกมองเข้ามาเห็นเราแล้วรู้สึกยังไงบ้าง เราก็แค่ทำของเราไป แล้วอยู่ๆ วันหนึ่งก็มีผู้ใหญ่มองเห็นความตั้งใจ มองเห็นวินัยของเรา ทั้งๆ ที่เขาไม่จำเป็นต้องให้เราก็ได้ เราเป็นใครก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ

 

มาที่พื้นที่ที่จับต้องได้จริงอย่างร้าน addict.co ดีกว่า ทำไมถึงเลือกขยับบทบาทมาเป็นเจ้าของร้านกาแฟ

เอาจริงๆ การทำร้านเป็นความฝันของเราเลยแหละ แต่การทุ่มเวลาให้กับงานประจำมันทำให้ความฝันของการมีหน้าร้านของเราห่างออกไปเรื่อยๆ แต่พอมีแฟนเป็นบาริสต้า เรารู้สึกว่าจังหวะมันมาแล้ว แถมโลกกาแฟตอนนี้มีกาแฟหลากหลายแบบมากให้ลองชิม อีกอย่างคือเรารู้สึกว่าเรามีโอกาสได้เจอผู้คนที่สนใจในเรื่องเดียวมากขึ้นเรื่อยๆ เลยอยากทำตรงนี้ให้เป็นคอมมูนิตี้ของเรา 

ร้านเรามีสโลแกนว่า ‘feel free to get a seat and sip’ เราอยากให้ทุกคนมาแล้วสามารถเลือกที่นั่ง เลือกเครื่องดื่มให้ตัวเองแบบสบายๆ อยากให้เราแนะนำกาแฟตัวไหนก็บอกได้เลย ใครที่ทำเองเป็นมาลองใช้อุปกรณ์ของเราก็ได้ 

 

ทำไมการมีคอมมูนิตี้มันสำคัญกับคุณ

เราเชื่อว่าโลกกาแฟมีอะไรที่หลากหลายมากๆ ที่รอให้เราเรียนรู้ไปเรื่อยๆ และประสบการณ์กาแฟของคนเราไม่เท่ากัน บางคนอาจจะเข้ามาทิ้งอะไรบางอย่างแล้วออกไป หรืออาจจะเป็นเราที่ได้ทิ้งอะไรไว้ให้คนอื่นๆ การที่แต่ละคนได้มาเจอกัน แลกประสบการณ์หรืออะไรที่ดีๆ ให้กัน อย่างเราที่ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีความรู้ พอเราได้มาเจอคอมมูฯ เรารู้สึกว่าเราได้อะไรกลับมาเยอะมากๆ หลายๆ อย่างก็ช่วยต่อยอด ช่วยพัฒนาสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ 

อย่างตอนนี้ที่ทำร้านตัวเองไปด้วย เราก็พยายามไปเยี่ยมเยือนร้านเพื่อนบ้านด้วย เอาเราไปให้เขารู้จัก เราก็เอาเขาไปบอกต่อคนอื่นๆ ลูกค้ามาหาเราก็ป้ายยา ลองไปร้านพี่คนนี้กาแฟอร่อยมากเลยนะ หรือร้านนี้มีกาแฟพิเศษ เรารู้สึกว่าลูกค้าไม่จำเป็นต้องมาร้านเราร้านเดียวก็ได้ อยากให้บรรยากาศที่ทุกคนมาแชร์กันมันเกิดขึ้นในพื้นที่ของเรา 

กาแฟที่อร่อยสำหรับคุณมันเป็นยังไง

(นิ่งคิด) มันคือกาแฟที่เราชงเอง เพราะว่าทุกแก้วที่เราทำ เราตั้งใจและโฟกัสกับมันจริงๆ ใช่ กาแฟที่อร่อยสำหรับเราคือแบบนี้เลย

 



//