อาร์ม Pichit89 ครีเอเตอร์สายไลฟ์สไตล์ ที่ไม่ว่าไปไหนต้องมีกาแฟ(และไก่)ไปด้วย!


 

ในวันที่คอนเทนต์กาแฟมีให้เราเลือกเสพสาระและความสนุกแบบไม่ซ้ำ 


สำหรับเราแล้ว คอนเทนต์ไลฟ์สไตล์ของครีเอเตอร์ชาวจังหวัดตราดอย่าง ‘อาร์ม-พิชิต ศิริรัตนบุญชัย’ หรือ @Pichit89 จัดว่าโดดเด่น แล้วก็ทำงานกับคนที่คลิกดูแบบเราได้ดีสุดๆ


เพราะถ้าไม่นับว่าดูแล้วอยากจะครอบครองอุปกรณ์กาแฟดีไซน์สวยๆ ตามเจ้าตัวละก็ ความที่ทุกคลิปมาพร้อมกับสีเขียวๆ ของต้นไม้ใบหญ้าและผืนน้ำเบื้องหลัง บวกกับมูฟเมนต์ของอาร์ม ไม่ว่าจะเป็นการชงกาแฟ ปิ้งแซนวิช หุงข้าวผัดหมูกระเทียม หรือกระทั่งปิ้งหมูกระทะ และไก่สองตัวที่นอนเฉยๆ ก็ขโมยซีนเจ้าของแอคเคานต์ ดูคลิปไหนก็เพลินตาและฮีลใจ 



และหลายต่อหลายครั้ง (หรือจริงๆ ก็แทบทุกครั้ง) ก็ทำให้คนในเมืองที่แสนวุ่นวายแบบเราอยากจะมีโมเมนต์รื่นรมย์แบบเจ้าตัวดูบ้าง


ถ้าอัลกอริทึมยังไม่จิ้มคลิปของอาร์มมาโชว์ให้คุณดู ไม่ต้องกลัวว่าคุณจะคุยกับใครไม่รู้เรื่อง ติดตามเขาตั้งแต่วันนี้ ไม่สายเกินไปแน่นอน ส่วนใครที่ติดตามอาร์มกันอยู่แล้ว (หรืออาจจะเคยเอฟของตามมาแล้ว) วันนี้เรามาทำความรู้จักเพื่อนของ Yellow stuff คนนี้ให้มากขึ้น ผ่านบทสนทนาด้านล่างนี้กัน


กว่าจะอินกับกาแฟแบบวันนี้ แก้วแรกในความทรงจำของคุณเป็นกาแฟแบบไหน


ครั้งแรกที่ได้กินกาแฟคือตอนเด็กๆ เลยครับ เป็นกาแฟที่พ่อซื้อมาแบบใส่ถุงมัดยาง แล้วผมก็เป็นเด็กที่ชอบลองไปชิมของคนอื่น ก็รู้สึกว่ามันก็อร่อยดีนะ แต่พอเราเป็นเด็ก น่าจะเหมือนที่ทุกคนเคยเจอ พ่อแม่ ผู้ใหญ่เขาจะชอบบอกเราว่า เป็นเด็กกินกาแฟมันไม่ดีนะ ทีนี้ก็กลายเป็นความรู้สึกที่ฝังใจเรามา


พอโตขึ้น ผมก็ไม่ได้อะไรกับกาแฟมาก แต่มีช่วงหนึ่งที่ผมชอบปั่นจักรยานมากๆ ชอบอ่านบทความในเพจ Ducking Tiger แล้วเจอบทความพูดถึงช็อตกาแฟ อะไรคือ Perfect Shot พอได้อ่านได้เห็นรูป ผมรู้สึกว่ากาแฟแบบนี้หน้าตามันแปลกใหม่ดี แก้วกาแฟก็สวย กินแล้วทำให้เรามีแรงปั่นจักรยานไปด้วย ก็เลยเริ่มศึกษา หาบทความอื่นๆ มาอ่าน ลงลึกกับมันไปเรื่อยๆ


แล้วอะไรนำทางให้คุณอยากซื้ออุปกรณ์กาแฟเข้าบ้าน


ผมชอบดูช่องยูทูปรีวิวอุปกรณ์ของคนต่างชาติคนหนึ่ง คือเราก็ไถของเราไปเรื่อย แล้วก็ลองเสิร์ชดูอุปกรณ์เล่นๆ ก็เจอเครื่องชงยี่ห้อ Gaggia ลดราคาวันแม่พอดี ก็โดนเลยครับ เครื่องแรกเป็นเครื่องชงไฟฟ้า ในใจตอนนั้นคืออยากลองทำลาเต้อาร์ตด้วยนะ

 

จำแก้วแรงที่ชงเองได้ไหม ประสบการณ์ตอนนั้นมันเป็นยังไง


ตอนนั้นผมยังไม่รู้เรื่องเลยว่า เราต้องบดกาแฟละเอียดขนาดไหน ซึ่งถุงกาแฟที่ร้านเขาแถมมาให้เป็นกาแฟบดสำหรับดริป ไม่ใช่สำหรับเอสเพรสโซ ใส่เข้าไปปั๊บ น้ำพุ่งเลยครับ เราก็สงสัยละว่าเราทำอะไรผิด ก็ไปศึกษาเพิ่มจนได้รู้ว่า กาแฟเราใช้เบอร์บดแบบนี้ไม่ได้นะ ต้องบดให้ละเอียดขึ้น ทีนี้ เครื่องบดก็งอกเลยครับ แล้วอุปกรณ์ก็งอกยาวมาจนถึงทุกวันนี้ (หัวเราะ)

 

เดาว่าคุณน่าจะเอนจอยกับการซื้อของ คุณมีวิธีเลือกอุปกรณ์ของแต่ละชิ้นยังไง


เมื่อก่อนผมก็ดูจากอินฟลูเอนเซอร์เลยครับ ชอบดูรีวิว เขาใช้แล้วดีไม่ดี คือให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่น หรือบางตัวที่ผ่านตาในโซเชียล ถ้าเห็นแล้วชอบก็ซื้อ บางอย่างซื้อมาใช้ได้ไม่กี่ทีแล้วพังเลยก็มี 


ตัวแบรนด์ก็มีส่วนเหมือนกัน แต่ผมจะไม่ได้มีแบรนด์ไหนที่ผมชอบเป็นพิเศษนะ เพราะว่าแต่ละแบรนด์เขามีจุดเด่นต่างกัน เครื่องบดเป็นแบรนด์นี้ เครื่องชงก็ต้องเป็นอีกแบรนด์หนึ่ง แต่ถ้าเป็นกาดริปกาแฟ ผมชอบของ Fellow ครับ (Fellow Stagg Stovteop Kettle) เป็นตัวที่ใช้งานบ่อยมากๆ 

 

 

เพราะอะไรคุณถึงชอบกาดริปตัวนี้เอามากๆ


เวลาใช้ ผมรู้สึกว่าการโฟล์วน้ำ (เทน้ำ) ง่ายกว่าแบรนด์อื่น ทรงก็สวย พอเปลี่ยนเป็นด้ามไม้ เวลาเอาเข้าเฟรม ถ่ายออกมายังไงก็สวยครับ 


แล้วการหยิบอุปกรณ์ไปชงกาแฟที่วิวสวยๆ แล้วถ่ายคลิปลงโซเชียล สิ่งนี้มีจุดเริ่มต้นยังไง


จุดเริ่มต้นผมอาจจะไม่ได้น่าตื่นเต้นมากนะ จริงๆ ผมเริ่มตัดคลิปแรกตอนที่ไอจีเริ่มมี Reels ขึ้นมา แต่เป็นคลิปชงกาแฟในบ้านแค่หนึ่งคลิป จากนั้นก็หายไปถ่ายคลิปเดินเล่นในสวน ที่บ้านผมเป็นสวนมังคุด เป็นสวนยางสมัยก่อน มีน้ำคลอง มีลำธารสวยๆ คือตั้งใจแค่ว่าอยากถ่ายวิวที่เราชอบไปเรื่อยๆ แล้วมีวันหนึ่งก็เอากาแฟไปตั้ง เอาสองอย่างที่เราชอบมารวมกันดู ถ่ายออกมา โพสต์แล้วคนชอบ ก็ถ่ายไปเรื่อยๆ พอมีคนส่งอุปกรณ์มาให้ผมลองใช้ ทีนี้ก็ยิ่งชอบถ่ายใหญ่เลย 

 

มีประสบการณ์แปลกๆ ประทับใจจนลืมไม่ลงเกิดขึ้นไหม

 

เยอะเลยครับ แต่ที่เอาลืมไม่ลงเลยจริงๆ เป็นวันที่ผมไปถ่ายในสวน แล้วผมจัดโต๊ะริมคลอง บนโต๊ะมีเครื่องบด Comadente ตั้งอยู่ ทีนี้เหมือนผมจัดโต๊ะไม่ดี เครื่องบดก็เอนล้มไปในคลอง แล้วคลองช่วงนั้นเป็นช่วงที่ลึกมาก ผมไม่ได้คิดอะไรเลย แต่ตัวผมกระโดดลงคลอง แล้วก็คว้าเครื่องบดที่หล่นลงไปได้พอดี ขึ้นมาปุ๊บ เจอเซอร์ไพรส์ งูเลื้อยอยู่ข้างหน้าอีกที (หัวเราะ) 

 

มีหลายคนเป็นเอฟซีน้องไก่ 2 ตัวของคุณด้วย แนะนำน้องๆ ให้เรารู้จักหน่อย

 

ตัวสีดำชื่อ ‘เจื้อยแจ้ว’ สีขาวชื่อ ‘เจ๋ง’ ครับ เมื่อก่อนคนงานที่สวนเขาเลี้ยงไก่ไว้ แล้วทีนี้เขาลาออก แต่เขาไม่เอาไก่ไปด้วย มีช่วงหนึ่งที่ไก่หายไป ผมก็เดินถ่ายวิวในสวน ก็เจอลูกเจี๊ยบ คอลวิดีโอกับแฟนว่าเอายังไงดี เขาก็บอกให้ผมเอากลับมาเลี้ยง มี 2 ตัว ตั้งชื่อว่าเจื้อยกับแจ้ว เพราะมันพูดเก่ง จากนั้นเจื้อยก็ตายไปก่อน แจ้วก็เลยกลายเป็นเจื้อยแจ้ว ส่วนเจ๋งเป็นน้องของเจื้อยแจ้วครับ เขามาทีหลัง 

 

 

 

คุณไปไหนต้องมีเจื้อยแจ้วกับเจ๋งไปด้วยตลอด มีเหตุผลที่ตัวติดกันไหม


จริงๆ แล้วเจ๋งเป็นไก่ที่ป่วย กินอาหารเองไม่ได้ เลยต้องไปไหนไปด้วยกัน แล้วที่เห็นคลิป ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจว่าจะเอาเขามาเป็นเอกลักษณ์ของช่องเราหรืออะไรนะ คือมีอยู่วันหนึ่ง เขาเดินเข้ามาในเฟรมกันเอง กลายเป็นว่าคนชอบมาก พอคลิปไหนไม่มี คนก็ถามหา ก็เลยต้องให้เขาอยู่ในเฟรมตลอด (หัวเราะ)


รู้สึกยังไงที่ความชอบของเรามันกลายเป็นอาชีพ กลายเป็นสิ่งที่คนอื่นๆ ชอบ และอยากจะเดินตาม


รู้สึกดีนะครับ มีน้องๆ หลายคนมาขอคำแนะนำเหมือนกัน ซึ่งถ้าให้ผมแนะนำ ผมว่าให้เริ่มด้วยความชอบจริงๆ ของเราดีกว่าครับ คือเวลาเราอยากจะถ่ายอะไรแบบนี้ทุกวัน เราต้องชอบก่อน เพราะถ้าเราถ่ายไปแบบรู้สึกว่าเรากำลังฝืนตัวเอง เราจะทำมันได้ไม่นาน สุดท้ายเราก็จะไม่อยากทำต่อ


เห็นคุณชงกาแฟริมน้ำ ริมป่ามาเยอะแล้ว ถามหน่อยว่ามีชงกาแฟกินในบ้านบ้างไหม


ชงครับ วันไหนที่ทำงานอยู่บ้านหรือเวลาที่อยากอ่านนู่นนี่ ไม่ได้ออกไปไหนก็ชงกินในบ้านตลอดเลย

 

คุณชอบกินกาแฟแบบไหน

 

ผมชอบกาแฟดริปนะ ปกติจะทำดริปเป็นหลัก แต่ถ้าเป็นเมล็ดกาแฟ ผมกินได้ทุกตัวเลย ถ้าวันนี้เราเบื่อตัวนี้ ก็เปลี่ยนเป็นตัวอื่นไปเรื่อยๆ

 

ในวันที่มีคนติดตามเราเยอะมากๆ คุณอยากต่อยอดอาชีพนี้ยังไง

 

ก็อยากทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ในอนาคตก็แพลนกันไว้ ว่าอยากจะอยู่สวน อยากจะทำอะไรสักอย่างที่สวน เช่น สร้างโฮมสเตย์สักหลัง ให้เพื่อนๆ ที่เขาอยากมามีประสบการณ์แบบเรา ได้มาลองนั่งกินกาแฟ มาถ่ายคลิป มาชมบรรยากาศที่สวนเราจริงๆ คิดว่าน่าจะเป็นอะไรที่ตอบโจทย์

 

….

เรื่อง Ben Mungkornatsawakul



//